เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีผู้ต้องหญิง มิน พีชญา ตัดผมจริงหรือไม่

จากที่เมื่อวานนี้ (17 ต.ค. 67) 17 บอส ผู้ต้องหาธุรกิจลวงโลก ดิไอคอนกรุ๊ป ถูกฝากขังที่เรือนจำคืนแรก หลัง ศาล ไม่ให้ประกันตัว ซึ่งหลายคนก็ตั้งคำถามว่า 3 บอสดารา “กันต์ กันตถาวร, มิน พีชญา และ แซม ยุรนันท์” ได้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่นหรือไม่ นอกจากนี้ในโลกโซเชียลยังพูดถึงประเด็น “มิน พีชญา” ถูกฝากขังที่เรือนจำต้องตัดผมสั้นเหมือนนักโทษคนอื่น รวมทั้งต้องมีการตรวจค้นร่างกายอย่างละเอียด เพื่อค้นหาสิ่งของต้องห้ามหรือไม่


ซึ่ง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา และ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า คืนแรกของการเป็นอยู่ในเรือนจำ มีการดำเนินการในส่วนของกระบวนการแรกรับ ผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจะต้องทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ และมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดสีลูกวัว สำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ก่อนนำตัวเข้าไปยังห้องกักโรคโควิด-19 เพื่อกักคัดกรองโรคในระยะเวลา 5 วัน

ส่วนประเด็นการตัดผมของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ทั้งผู้ต้องขังชายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถานหญิงกลาง รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ในส่วนของผู้ต้องขังชายจะต้องตัดรองทรงสูงทุกราย แต่ไม่สั้นมาก จะต่างจากผู้ต้องขังเด็ดขาดชาย แต่ผู้ต้องขังหญิง ราชทัณฑ์อนุโลมว่า ต้องมัดรวบผมให้เรียบร้อย ส่วนถ้าความยาวของผมนั้น ยาวมามากเกินไปก็สามารถเล็มตัดความยาวออกได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันเรื่องผมร่วง


ทั้งนี้ ในช่วงเช้า “มิน พีชญา” ได้สอบถามผู้คุมถึงเรื่องการเยี่ยมญาติ การพบทนายความปรึกษาคดี และการสั่งซื้อของฝากจากภายนอกผ่านใบรายการสั่งซื้อของเรือนจำฯ หลังจากครบระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ก็จะถูกจำแนกไปยังแดนแรกรับของแต่ละเรือนจำ คาดว่าในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แดนแรกรับอาจจะเป็นแดน 1 หรือแดน 4 แต่ในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลาง จะเป็นแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาอยู่ในแดนแรกรับของเรือนจำ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินให้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด และจะยังจะไม่ต้องเข้าร่วมกองงาน เพื่อที่จะได้มีเวลาในการต่อสู้คดี เพราะพวกเขายังต้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด เว้นแต่ว่าเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเอง ก็สามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้คุมให้มีการพิจารณาอย่างเหมาะสมได้ .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 6,398 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม