นักแสดงหนุ่มหุ่นล่ำ “อาร์ต พศุตม์ บานแย้ม” เล่าผ่านรายการแฉว่าตน เกือบไปร่วมอยู่ในทุกคดีธุรกิจเครือข่ายดัง เพราะทุกเคสจะถูกทาบทามให้ไปร่วมงานด้วยมาตลอด ซึ่ง หนุ่มอาร์ต เผยว่าที่รอดมาได้เป็นเพราะคิดถึงคำที่พ่อแม่สอนในเรื่องของการตกทอง
“หลาย ๆ งาน หลาย ๆ เคสผมแคล้วคลาดมากสุด ๆ ด้วยคาแรกเตอร์ผมมันตรงเกือบทุกอันเลย ไม่ว่าจะ Forex – 3D ซึ่งจริง ๆ ก่อนจะเป็นเพื่อนผมคนที่เข้าไปอยู่ข้างใน เขามาชวนผมก่อน สตอรี่เดียวกับเพื่อนผมเลย ตอนนั้นผมไปสตูฯ รถเหมือนกัน แล้วเขาก็ชวนผมลงทุนหาเครือข่าย ทำธุรกิจหุ้นไหม เล่าเป็นภาษาผมนะ ตอนนั้นก็แอบโง่ เราเคยโดนสอนเรื่องการตกทอง คือเอาเหยื่อเล็กมาล่อเหยื่อใหญ่ ผมดูแล้วรู้สึกว่าผลประโยชน์ตอบแทนมันผิดปกติ เราเลยไม่เอา ก็ปฏิเสธไป แล้วก็ได้มารู้ว่าเขาชวนเพื่อนผมที่อยู่ข้างใน สรุปแล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ คือถ้ามันง่ายขนาดนั้น ถ้ามันรวยง่าย เขาจะมาบอกมึงง่าย ๆ เหรอ เขาไปบอกญาติเขาดีกว่าไหม นี่คือเซ้นส์แรกของผมที่พ่อแม่ผมสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ผ่านมา ผมก็เห็นเขามีเครือข่าย เห็นเพื่อนเราเจริญรุ่งเรือง ผมยังคิดเลยว่าเวลามันนานกว่าที่เราคิด สงสัยมันจะถูกจริงๆ มีแว๊บนึงนะที่เราเห็นเพื่อนเราเจริญรุ่งเรือง ผมก็มีแอบคิดนะว่าหรือเราจะกลับไปขอเขาทำดีไหม แต่อีกใจตอนนั้นมันก็คิดว่าหรือมันจะเป็นกลโกงอีกแบบนึงที่ใช้เวลานานมาก ก็กินเวลาเกือบ 10 ปีเลยนะ เขาจะบอกว่าลงทุน 10,000 บาท ได้กลับมา 5,000 บาท จากนั้นจะให้ลงทุน 100,000 บาท ได้กลับมา 50,000 บาท คราวนี้ลง 1 ล้านบาท 500,000 บาทเผลอ ๆ ก็ยังได้อยู่ มันก็จะจูงไปที่ 10 ล้านแล้ว ที่นี้เขาก็จะรวบกินหางทีเดียวจบเลย เอาเงินเราทำงานเราครับ อย่าเอาเงินเราไปทำงานคนอื่น
แม่มณีไลน์มาหาผมชวนไปร่วมงาน เล่นละคร+หนัง 6 เรื่อง ชวนไปเป็นพระเอก ทำไปทำมา ก็มาชวนลงทุน ตอนนั้นอยู่ช่อง 3 ผมก็คิดในใจกว่าจะขอทำรายการเล็กๆ จากช่องได้ยังยากเลย แล้วเขาเป็นใครถึงเปิดละครทีเดียว 3 เรื่อง หนังอีก 3 เรื่อง เป็นใครวะ มันก็มีความเอะใจ ตอนนั้นก็เห็นแม่มณีเขาไปตามอีเวนต์ ก็ดูน่าสนใจนะ แต่มันเอ๊ะอีกที่เราเห็นพี่ก้อง (ก้อง ปิยะ) เราเห็นพัฒนาการของเขาว่ากว่าเขาจะมาอยู่ตรงนี้ได้ เขาผ่านอะไรมา แต่คนนี้เป็นใครอยู่ ๆ โดดมาเลย ใครวะ ก็เลยไม่เอาพี่ ให้ผมลงทุนผมไม่เอา แต่ถ้าให้เล่นละคร 6 เรื่องผมเล่นให้หมดเลย ขอให้มีจริงเถอะ ก็บอกรับครับ แต่ผมจะมีความนิสัยเสียในการทำงานอย่างหนึ่ง มาติดต่องานผม แล้วถ้าเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก ผมเรียกราคาสูงเลย ถ้าจะมาเปิดหนังโอนมาก่อน 100% อันนี้คือนิสัยผมอยู่แล้ว ผมก็เลยรอด ตอนนั้นแม่มณีมีงานที่เกาะเสม็ด แล้วผมติดถ่ายละครด้วย เขาเลยต้องเปลี่ยนตัว งานนั้นแม่มณีก็โดนตำรวจรวบ คือสิ่งที่เขาทำอย่างเปิดละคร มีอีเวนต์เพราะเขาอยากมีภาพกับดาราหลาย ๆ คน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เขาจะเอาภาพไปลงเฟซบุ๊ก นี่คือแพทเทิร์นกลโกงในโซเชียลเลย คือการมีรูปกับดาราเพื่อสร้างตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือ
ส่วนเคส แม่ตั๊ก เป็นช่วงที่หมูกรอบดังแล้ว เขาชวนผมไปไลฟ์เรื่องโปรตีน คืองานที่เกี่ยวกับทอง เกี่ยวกับการลงทุนผมจะไม่เอาอยู่แล้ว แต่นี่เป็นโปรตีน แล้วในความคิดผม ผมสร้างหุ่น สร้างทุกอย่างด้วยตัวผมเอง อยู่ดี ๆ จะมาโฉบ ผมก็เลยเรียกเขาไลฟ์ละ 300,000 บาท ก็เรียก 2 เท่าจากเรตทั่วไปที่คนอื่น ๆ ที่เขาได้กัน เขาก็เลยไม่สู้ ไม่เกิน 6 เดือนก็เกิดคดีนี้ขึ้น
ส่วนเรื่อง ดิไอคอน เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ก็มีแม่ทีมหัว ๆ ติดต่อผมมา เขาก็ชวนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ฟังเสร็จผมก็กลับไปทำการบ้านว่าบริษัทนี้มันเป็นยังไง ของใคร ผมก็ได้ไปเจอเพจนึง ที่เขาลงข่าวถึงหัวใหญ่ในทางที่ไม่ค่อยดี ผมก็เช็กต่ออีก ก็ไปสืบรู้ว่าเขามีปัญหา งั้นไม่เอาดีกว่า ก็ถอนตัวออกมา ด้วยความที่เราเคยถูกโกงจากธุรกิจขายตรงมาแล้ว เลยไม่อยากจะเข้าไปอยู่ในวงโคจรของคนที่มีปัญหา ก็รอดมาได้ ผมก็ขอย้ำนะครับ ถ้าเขารวยง่าย ๆ เขาไม่มาบอกเราง่ายๆ หรอก จำคำนี้ไว้เลยครับ ถ้าหนทางที่มันจะรวยง่าย เขาไม่มาบอกเราง่าย ๆ เขาไปบอกญาติเขาดีกว่า ตรง ๆ เลยนะ ขนาดขายหมูกรอบ ที่เขาสอนทำในยูทิวบ์เขายังบอกไม่หมดเลย เขาหมกเม็ดบางอย่างไว้ เขาไม่บอกทั้งหมดหรอก” .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน