เปิ้ล นาคร เผยลงพื้นที่ช่วยเหลือช้าง จ.เชียงใหม่ได้ 7 เชือก ปลูกฝัง ออก้า ให้รู้จักช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

ยังปวดตัวและรู้สึกคันบริเวณขาและแขนอยู่ หลัง เพิ่งกลับจากลงพื้นที่ช่วยพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดเชียงใหม่ตลอดสองวันที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ เปิ้ล นาคร เปิดใจกับไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า น้ำท่วมครั้งนี้หนักกว่าทุกปีที่ผ่านมามาก โดยเฉพาะปัญหาของดินโคลนที่สูงถึงหัวเข่า ขยะ และซากกิ่งไม้ ทำให้ทีมเจ็ตสกี ที่มีการลงพื้นที่ไปช่วยเหลือมากกว่า 20 ลำต้องล่าช้าตามไปด้วย การลงพื้นที่ครั้งนี้เปิ้ลได้พาลูกชายน้องออก้า ดีกีแชมป์โลกเจ็ตสกีไปช่วยเหลือด้วยเพราะทันทีที่บอกว่าจะไปช่วยเหลือช้าง น้องออก้าก็ไม่ปฏิเสธและรีบเก็บกระเป๋าเดินทางทันที แต่เนื่องจากหน้างานสถานการณ์น้ำค่อนข้างรุนแรงกว่าที่คิด เปิ้ล จึงขอให้ลูกชายไม่ลงในที่น้ำเชี่ยว เพราะเกรงว่าจะต้านแรงน้ำไม่อยู่ และอาจเกิดอันตรายได้ตอนลงพื้นที่เปิ้ลเราว่าช้างจำนวนร้อยกว่าเชือกได้ถูกช่วยชีวิตและนำไปไว้ในที่ที่ปลอดภัย แต่มีช้างอยู่จำนวน 7 เชือกที่ติดกระแสน้ำอยู่บนเกาะ ไม่สามารถนำพากลับมาได้ เปิ้ล ได้นำเจ็ตสกีขับพาควาญช้างจากนั้นใช้วิธีการล่ามโซ่แล้วพาไปยังจุดที่ปลอดภัยได้ทั้งหมด รวมไปถึงมีการช่วยเหลือสัตวแพทย์ที่รักษาช้างที่ติดกระแสน้ำไม่สามารถเดินทางไปช่วยเหลือช้างได้ นี่จึงเป็นสิ่งที่รู้สึกดีใจและมีความสุขกับการออกไปช่วยเหลือในครั้งนี้


การพาลูกชายลงพื้นที่ในครั้งนี้ เปิ้ล เผยว่าอยากให้ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ใช่การมาเล่าให้ฟังได้เห็นน้ำตาผู้ที่เดือดร้อน ถือเป็นการปลูกฝังการช่วยเหลือซึ่งจริง ๆ แล้ว น้องออก้า ได้ช่วยเหลือเหตุการณ์น้ำท่วมมาตั้งแต่ยังเด็กครั้งนี้ทันทีที่ลูกชายได้เห็นคนที่ขอข้าวขอน้ำรวมถึงขอให้ช่วยชีวิตก็ไม่รู้สึกบ่นเหนื่อยและพร้อมสู้ยาวไปจนถึงเที่ยงคืน หลังจากนี้มวลน้ำยังคงไหลลงมาต่อเนื่องจังหวัดลำพูน,พิษณุโลกและลงมาจนถึงกรุงเทพมหานครเปิ้ลอยากให้พี่น้องในจังหวัดดังกล่าวเตรียมพร้อมรับมือพร้อมย้ำว่าตัวเองไปเห็นที่จังหวัดเชียงใหม่มาแล้วน้ำสูงกว่าปี 2554 มาก ขณะที่ทีมเจ็ตสกีสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยยังคงลงพื้นที่เกาะติดมวนน้ำที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่องซึ่ง เปิ้ล ยังเตรียมลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องในจังหวัดลำพูนต่อไปด้วย ย้ำว่าน้ำไม่ลดเราไม่เลิก ซึ่งจิตอาสาทุกคนที่ลงพื้นที่เปิ้ลยังเล่าว่าสถานที่หลับนอนคือวัด รวมถึงอยากขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ใจดีกับทีมจิตอาสาให้ทั้งที่พักอาหารตลอดจนสนับสนุนเงินค่าน้ำมันรถตลอดเส้นทางการเดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ขณะที่โรคภัยที่ตามมากับน้ำเปิดเผยว่ามีทั้งน้ำกัดเท้ารวมไปถึงอาการคันกับสิ่งที่มาจากน้ำก็ยังคงน่าเป็นห่วง ซึ่งขณะนี้ทางภรรยาแม่จูน กษมา ได้ตั้งกองบุญเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นให้กับพี่น้องที่ประสบอุทกภัยได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมออกปากการช่วยเหลือครั้งนี้รู้สึกดีใจที่ทางครอบครัวมีส่วนร่วมมีความตั้งใจในการช่วยเหลือทุกชีวิตให้ปลอดภัย .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน


เข้าชม 43 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม