กิต Three Man Down อัปเดตอาการป่วยโรค VKH ดีขึ้น เผยต้องกินยาสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ด

แฟน ๆ ส่งกำลังใจให้นักร้องหนุ่ม “กิต Three Man Down” กันเพียบเลย เมื่อวานนี้ทางต้นสังกัดออกมาอัปเดตอาการของ นักร้องหนุ่ม ว่า “ทางค่าย GeneLab ขอแจ้งให้ทราบว่า กิต – กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ ศิลปินวง Three Man Down ยังคงมีอาการป่วยที่จอประสาทตา สูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพ หรือที่รู้จักกันในโรค Vogt–Koyanagi–Harada disease (VKH) โดยแพทย์ลงความเห็นว่าต้องพักรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งส่งผลทำให้วง Three Man Down จำเป็นที่จะต้องหยุดพักการแสดงในสถานบันเทิง เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 แต่วงยังสามารถขึ้นแสดงใน Music Festival ต่าง ๆ งาน Event และงานแสดงกลางแจ้งที่มีระยะห่างจากผู้ชมได้ ทางวง Three Man Down และค่าย GeneLab ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ และจะแจ้งความคืบหน้าในการรักษา อัพเดทอาการ รวมถึงการแสดงในอนาคตอีกครั้ง”


ต่อมา “กิต Three Man Down” ออกมาอัดคลิปแชร์เรื่องราวการเป็นโรคจอประสาทตา สูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพ หรือที่รู้จักกันในโรค Vogt–Koyanagi–Harada disease (VKH) พร้อมเผยว่าตอนนี้ตนต้องกินยายาสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ด รับช่วงที่ผ่านมาเครียด แต่สุดท้ายก็พร้อมยอมรับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตครั้งยิ่งใหญ่

หลังจากได้มีการรักษามาเป็นเวลา 7 วัน ที่มาเล่าคือหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นทั้งตัวผมเองและสถานการณ์ต่าง ๆ ของ Three Man Down อยากจะมาอัปเดตสุขภาพของผมด้วยว่าเป็นอย่างไร คือโรคนี้ตามข้อมูลจากเปเปอร์และข้อมูลจากทางการแพทย์เกิดจากภูมิคุ้มกันของเราเม็ดสีเมลานิน (Melanin)เป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย จึงเกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้นมันก็เกิดการอักเสบ ย้อนไปประมาณกลางเดือนที่แล้วหลังจากผมมีไปทัวร์มาเนอะ ผมตื่นขึ้นมาเดินทางไปสนามบินก็รู้สึกว่าไฟในสนามบินมันมึนหัวมากเลย ผมพูดกับเส็งนะทำไมตารางสนามบินสุวรรณภูมิมันเบี้ยว ๆ ยังไงไม่รู้ ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผมก็เดินทางไปประเทศจีน ทำงานปกติ กลับมาจากประเทศจีนผมเป็นไข้ตัวร้อนเบา ๆ ก็ไม่มีอะไรรักษาตามอาการ หลังจากนั้นก็หาหมอกินยาลดไข้ก็หาย จากนั้นผมเริ่มเจ็บบริเวณเส้นผมแค่เอามือแตะผมเจ็บมากขนาดที่นอนไม่หลับเลยแล้วก็ปวดหัวหนักมาก ๆ เลย


เครียดอาการเริ่มรุนแรงขึ้น

ตอนนั้นผมเริ่มเครียดแล้วเพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไรก็เลย MRI ดูปลายประสาท วินิจฉัยออกมาก็เป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ผมก็กินยาปลายประสาทอักเสบเหมือนจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น อันนี้เป็นไข้ 1 อาทิตย์ เจ็บผม 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ผมหูซ้ายอื้อ อื้อแบบชนิดที่ว่าร้องเพลงเพี้ยนไปเลย ผลลับก็คือบนเวทีคอนเสิร์ตมาราธอนผมร้องเพี้ยนกระจุยกระจาย ระหว่างนั้นผมเริ่มจะเครียดแล้วเพราะหูเราใช้ทำมาหากิน ผมก็เริ่มใจไม่ดี ก็เลยไปหาอีกโรงพยาบาล 1 ก็ตรวจหูผลออกมาคือหูผมอื้อก็มีผลทำให้ผมได้ยินเสียงโน้ตมันจะต่ำลง

ตาเริ่มเห็นเป็นเงาดำ

พอดีวันนั้นที่ไปเยื่อบุตาผมอักเสบด้วยทั้ง 2 ข้าง ผมก็เลยไปกับหูวินิจฉัยออกมาเยื่อบุตาอักเสบทั้ง 2 ข้าง ผมก็รู้สึกไม่สบายใจวันรุ่งขึ้นผมก็เลยไปหาโรงพยาบาลที่เกี่ยวกับตาอย่างต่อเนื่องเลยเพราะผมรู้สึกว่าตาผมแดงตลอดเวลา แต่เราก็เริ่มเห็นเงาดำแล้ว แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นแล้ว 1 อาทิตย์มันก็มีอะไรดีขึ้น ผมก็ไปหาหมออีกเขาก็แจ้งว่าเป็นโรคจอประสาทตาบวมน้ำทั้ง 2 ข้าง อาจารย์หมอบอกว่าสิ่งที่แปลกคือมันจะไม่เป็นทั้ง 2 ข้าง อยากให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจอประสาทตาอีกหนึ่งท่านต้องเข้ามาพบอีก 1 วีก ซึ่งผมรู้สึกว่ามันนานเกินไปผมก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปหาที่จักษุรัตนินก็ตรวจไปประมาณ 3-4 เครื่อง อาจารย์หมอคนแรกบอกว่ามันอักเสบทั้ง 2 ข้าง แต่ว่าโรคนี้มันแปลก ๆ ที่มันจะไม่เป็น 2 ข้าง

กินยาสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ด

ก็ถูกส่งไปยังอาจารย์หมออีกคนหนึ่งก็บอกว่าดูแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ผมน่าจะเป็นโรค VKH (Vogt–Koyanagi–Harada disease) หรือเรียกว่าโรคจอประสาทตา สูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพ เพราะว่าโรคนี้มันจะทำให้อักเสบทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน วิธีรักษาจะต้องใช้สเตียรอยด์ ก็เลยถูกส่งไปยังอาจารย์หมออีกคนหนึ่งก็จ่ายสเตียรอยด์ให้ผม ผมกินยาสเตียรอยด์วันละ 12 เม็ด 6 เม็ดเช้า 6 เม็ดเย็น ก็ตามน้ำหนักตัว ทานมาได้ 1 อาทิตย์แล้วก็ดีขึ้น ผมเห็นภาพดีขึ้น การบวมที่ไปดูมาจอประสาทตาทุกอย่างบวมลดลงที่สำคัญไม่ได้เกิดการอักเสบที่ตัวจอประสาทตา คือมันยังไม่ถึงเฟสที่ทำลายตาผมเลยมันแค่เริ่มอักเสบผมก็มารักษาทันไนเฟสที่เออร์ลี่ก่อนที่เริ่มร้ายลูกตาเพราะฉะนั้นตาผมยังปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่มันมืดเพราะว่ามันมีน้ำไปสะสมอยู่ทำให้ภาพที่ผมเห็นมันมืด


รู้สึกดาวน์เมื่อรู้ว่าเป็นโรค VKH

ตั้งแต่เริ่มเป็นโรคนี้ความรู้สึกมันดาวน์เพราะว่าผมใช้ตาทำงานมากพอ ๆ กับใช้หูและคอเลยผมเลยกังวลมาก ๆ ในการที่ตาจะกลับมาไม่เหมือนเดิม พอเราได้อ่านสถิติจากคนที่เป็นคือมันดาวน์มาก ผมเลยรู้สึกว่าถ้ามีคนเป็นแล้วอยากจะได้กำลังใจผมอยากจะพรีเซนต์ว่าถ้ารักษาเร็วไปหาหมอเร็วก็กินยาให้ตรงเวลามีวินัยกับตัวเองทุก ๆ อย่างมันจะดีขึ้นแน่นอน คุณจะไม่ตาบอดถ้าคุณรักษาอย่างถูกวิธี คนบางคนไปหาหมอในตอนที่ไม่เห็นแล้ว 20-30 เปอร์เซ็นต์แล้วเริ่มไปหาหมอเขายังกลับมาเป็นปกติได้ ผมหายไป 5 เปอร์เซ็นต์ ผมนั่งอ่านจนจิตตกมันเครียดไปหมดแล้ว ผมพยายามจะเอ็นจอยกับสิ่งนี้ เป็นช่วงเวลาได้เปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตทั้งการใช้ชีวิตและการดูแลตัวเอง พ้อยท์นี่แหละที่ผมอยากจะมาอัดคลิปให้ทุกคนรู้สึกว่ามันโอเคอยู่ถึงจะเป็นโรคที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ รักษาใช้สเตียรอยด์ไปเป็นเวลานาน แต่มันเกิดขึ้นแล้วก็ควรจะสู้กับมัน

ปีนี้ป่วยเยอะมาก

ปีนี้ผมป่วยเยอะมาก ต้นปีผมก็แพ้ยารุนแรงทำให้มีภาวะตับอักเสบและต้องใช้สเตียรอยด์เป็นเวลา 3 เดือน ตอนนั้นผมได้รับเอฟเฟกต์จากสเตียรอยด์ไปแล้วรอบหนึ่ง ถ้าใครติดตามก็จะรู้ว่าทำไมผมอยู่ดี ๆ ก็อ้วน สิวขึ้นเยอะมาก ผิวเสียหมดเลยร่างกายอ่อนแอ ซึ่งครั้งนี้ผมต้องใช้สเตียรอยด์รักษาโรค VKH มากกว่าครั้งที่แล้วเกือบเท่าตัวและก็เวลาการรักษามากกว่าเท่าตัวเลย โรคนี้มันไม่หายนะครับ มันมีโอกาสหายขาดได้ แต่มันก็มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ ผมควรจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ทั้งในพาสของโรคนี้แล้วก็พาสของการใช้สเตียรอยด์ ซึ่งหลังจากนี้อีก 1 ปีอาจจะเห็นผมเป็นจอมมารบูลก็ได้ อัดคลิปไว้ถ้าผมทำสำเร็จไม่ต้องหมดกำลังใจและก็ไม่ต้องเครียดไปก่อน ตอนนี้ผมยังไม่รู้นะว่าจะทำได้ไหมแต่ผมก็จะทำให้ดู

ตั้งเป้าจะไม่กลับมาเป็นโรค VKH อีก

เป้าที่ผมตั้งไว้คือจะไม่เป็นมันอีกผมจะทำทุกอย่างไม่ให้มันเป็นอีก จะต้องใช้ชีวิตให้ดีขึ้น อย่างที่บอกสเตียรอยด์ผมเคยใช้ไปแล้ว ผมรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ถามหมอหาข้อมูลทุกอย่างว่าเราจะสามารถออกกำลังกายได้ไหม ออกหนักได้แค่ไหน เราใช้ชีวิตปกติได้ไหม คือเราใช้ชีวิตปกติได้ ออกกำลังกายได้ เข้าฟิตเนสได้ ผมทำเพื่อไม่ให้กลับไปอ้วนแบบนั้น ผมจะพยายามให้มันเอฟเฟกต์น้อยที่สุด การกินอาหารผมค่อนข้างคุมเพราะการกินสเตียรอยด์อาจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน ที่ผมอยากจะแชร์ก็คือถ้าเกิดเราต้องเทคสเตียรอยด์ในการรักษาจริง ๆ ปฏิบัติตัวแบบนี้เลย 200-300 เปอร์เซ็นต์ไปเลยมันจะได้ผลไหม ถ้าไม่ได้ผลก็ไม่ต้องทำไปใช้ชีวิตให้มีความสุข .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 561 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม