ถือเป็นข่าวเศร้าของวงการแฟชั่นโลกเมื่อดีไซเนอร์ดังชาวเยอรมัน “คาร์ล ลาเกอร์ฟิลด์” เจ้าพ่อแห่งอาณาจักร “Chanel” เสียชีวิตด้วย วัย 85 ปี เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น โดยสื่อฝรั่งเศสรายงานว่า เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ หลังทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งตับอ่อนก่อนเสียชีวิตในเช้าวันอังคาร และเพราะที่ผ่านมา คาร์ล ดูแลสุขภาพและภูมิใจกับความฟิตของตัวเองมาตลอด การรับรู้ว่าตัวเองป่วยด้วยโรคร้ายจึงทำให้เขาช็อคไม่น้อย ข่าวลือเรื่องปัญหาสุขภาพของ คาร์ล เริ่มเป็นประเด็นหลังเจ้าตัวไม่มาร่วมงานเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหมของแบรนด์ Chanel ที่เขานั่งแท่นเป็น ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ ในงาน “ปารีส แฟชั่น วีค” เมื่อปลายเดือนก่อนซึ่งถือว่าผิดวิสัยอย่างมากเพราะ คาร์ล ไม่เคยพลาดที่จะมาทักทายกับเหล่าแฟชั่นนิสต้าด้วยตัวเอง โดยตอนนั้นทางห้องเสื้อให้เหตุผลแค่ว่า คาร์ลรู้สึกอ่อนล้าจนต้องให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน
ทันทีที่ Chanel ออกมายืนยันการเสียชีวิตของ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนสำคัญ บรรดาคนในวงการแฟชั่นทั้งดีไซเนอร์หญิง “ดอนาเทลล่า เวอร์ซาเช่ วิคตอเรีย เบคแฮม อดีตนางแบบคนดัง คาร์ลา บรูนี่ ไปจนถึง ไดแอน ครูเกอร์” แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Chanel ที่แสดงความเสียใจผ่านโลกโซเชียล ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คาร์ล คือ อัจฉริยะด้านแฟชั่นตัวจริง ขณะที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าพร้อมใจกันวางดอกไม้หน้าร้านChanel สาขาใหญ่ในกรุงปารีส เพื่อแสดงความอาลัยแด่ดีไซเนอร์ผู้เป็นตำนานคนนี้
คาร์ล ถือเป็นดีไซเนอร์ตัวพ่อของวงการแฟชั่น ที่สร้างบารมีในวงการด้วยสัญชาตญาณด้านศิลปะ บวกกับไหวพริบด้านธุรกิจและความมั่นใจในตัวเองทั้งยังนำพาให้แบรนด์หรู Chanel ยืนหนึ่งในวงการแฟชั่นมานานกว่า 3 ทศวรรษซึ่งภาพลักษณ์ของ คาร์ล ที่หลายคนจดจำได้ คือ การสวมสูทดำปกขาว ใส่ถุงมือสีขาว ผูกผม พร้อมแว่นตากันแดดแสนเก๋ แน่นอนว่าการจากไปของ คาร์ล ทำให้คนในวงการแฟชั่นมีคำถามว่า หลังจากนี้ใครจะสามารถพาแบรนด์ Chanel ให้ประสบความสำเร็จได้เทียบเท่ากับเขา