สื่อออสซี่ Australian Associated Press เผยว่า 2 ผู้อำนวยการสร้างหนังฮอลลีวูด ไมเคิล สก็อต และ อดัม สมิธ ลงทุนเดินทางมายังถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เพราะมองว่าเรื่องราวการช่วยชีวิต เด็กและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำ สามารถสร้างเป็นหนัง และทำเงินมหาศาลตอนที่เข้าฉายได้แน่นอน โดย สก็อต ผู้บริหารค่ายหนัง Pure Flix films และ สมิธ ซึ่งร่วมอำนวยการสร้าง ไม่เพียงสอบถามพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์หน้าบริเวณถ้ำหลวงเท่านั้น แต่ยังมีแผนจะพามือเขียนบท มาพูดคุยกับทีมอาสาสมัครจากนานาชาติ หน่วยซีลของไทย น้องๆและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี่ รวมถึงครอบครัว เพื่อเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์เรื่องราวที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกไปสร้างเป็นหนังอีกด้วย
งานนี้ ทั้งสองผู้อำนวยการสร้างยังไม่แคร์ ถ้าจะถูกมองว่า ใจร้อนเกินไปหรือเปล่า เพราะเข้ามาตอนที่เหตุการณ์การช่วยชีวิตเด็กๆ ยังไม่จบสิ้นด้วยซ้ำ เนื่องจากพวกเขาเกรงว่า ผู้สร้างคนอื่นจะมาปาดหน้าไปทำก่อน
โดย สก็อต ซึ่งมีภรรยาเป็นคนไทย และใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ยืนยันว่า เขาไม่บังคับหรือกดดันให้ใครมาให้ข้อมูล แต่ตะล่อมว่า ตอนที่เหตุการณ์ยังสดๆ ร้อนๆ ทุกคนจะให้ข้อมูลได้ดีกว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว สก็อต ยังมองว่า เนื้อหาของหนังอาจจะเน้นหนักไปที่สองนักดำน้ำชาวอังกฤษ ที่ค้นพบเด็กๆ เป็นคนแรก พร้อมย้ำว่า เรื่องราวความกล้าหาญ ความร่วมมือร่วมใจกัน จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูได้แน่นอน คาดว่า ทันที่ควานหามือเขียนบทได้ หนังน่าจะพร้อมเปิดกล้องจริงปลายปีหน้า
สำหรับค่ายหนัง Pure Flix มีสาขาอยู่ที่ สก็อตเดล อริโซน่า และ ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยมีผลงานสร้างชื่อคือ God’s not Dead เมื่อปี 2014 ที่ทำเงินทั่วโลกไปถึง 70 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 2 ล้านเหรียญ