ผู้เข้าชิงออสการ์ 2018 แค่การประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90 คงจะช่วยตอกย้ำว่า นาทีนี้ ฮอลลีวูด ให้ความสำคัญกับ เพื่อนหญิงพลังหญิงของจริง นับตั้งแต่เกิดกระแส MeToo ขึ้นมา เพราะสถาบันศิลปวิทยการภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ลงทุนสร้างสรรค์คลิปสั้น ๆ เพื่อแนะนำรางวัลในสาขาต่าง ๆ โดยการให้ผู้หญิงเป็นตัวเล่าเรื่อง แถมยังมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและสีผิวอีกต่างหาก
ด้านผลงานหนังที่เข้าชิง ก็ดูเหมือนจะไม่หักปากกาเซียน เมื่อหนังรักล้ำ ๆของผู้กำกับ “กีเยโม่ เดล โตโร่” เรื่อง The Shape of Water นำโด่งเข้าชิงสูงสุดถึง 13 สาขา ซึ่งก็รวมถึงรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ที่ “กีเยโม่” ดูจะเป็นเต็งหนึ่งในสาขานี้
และ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่ “ซัลลี่ ฮอว์กิ้น” ก็มีลุ้นอยู่ไม่น้อย
รองลงมา คือหนังสงครามเรื่อง Dunkirk ของผู้กำกับ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ที่เข้าชิงไป 8 สาขา ไม่พลาดตามไปเป็นคู่แข่งกับ The Shape of Water ในสาขาใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับด้วยเช่นกัน ซึ่งในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมปีนี้ ออสการ์ก็เปิดโอกาสให้ ผู้กำกับหญิง Greta Gerwig จากหนัง Lady Bird ติดโผเข้ามาด้วย หลังจากที่เธอโดนเมินจากเวทีลูกโลกทองคำมาก่อน ซึ่ง Greta ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับหญิงคนที่ 5 ที่เข้าชิงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม บนเวที ออสการ์อีกด้วย
ส่วนหนังตลกเสียดสีที่มาแรงในช่วงโค้งสุดท้ายอย่าง Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ก็มีลุ้นทั้งหมด 7 รางวัล แน่นอนว่า หนังเรื่องนี้ ก็ไม่พลาดมีชื่อเข้าชิงในสาขาใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย แต่สาขาที่หนังเรื่องนี้ดูจะมีภาษี ดีสุด คงหนีไม่พ้น นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่ “ฟรานเซส แมคดอร์มาน” ถือว่าเป็นเต็งหนึ่งเลยทีเดียว ขณะที่ “แซม ร็อคเวลล์” เองก็ไม่พลาดมีชื่อเข้าชิงในสาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม หลังจากตระเวนกวาดมาแล้วเกือบทุกเวที แต่จะติดตรงที่ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ก็ตามมาเป็นคู่แข่งด้วยอีกคน
มาถึงหนังขวัญใจนักวิจารณ์อีกเรื่องอย่าง Darkest Hour ที่เข้าชิงไป 6 รางวัล ซึ่งก็รวมถึงรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ที่น่าลุ้นมากที่สุด คือสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ที่ไม่น่าจะพลาดมือของ “แกรี่ โอลด์แมน” ไปได้ และที่น่าจับตามอง คือ พระเอก “เจมส์ ฟรังโก้”
จากหนัง The Disaster Artist ที่เคยเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ “แกรี่” ในหลาย ๆ เวที พอถึงเวทีใหญ่อย่าง ออสการ์ กลับไม่มีชื่อติดโผ ซึ่งก็คงไม่แคล้ว เป็นเพราะข่าวฉาว ที่ “เจมส์” ถูกผู้หญิง 5 คนออกมาแฉว่าเขามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศนั่นเอง ขณะที่ พระเอกมากฝีมือ “แดเนียล เดย์ ลูอิส” ซึ่งประกาศทิ้งทวนกับงานแสดงในหนังเรื่อง Phantom Thread ก็ไม่พลาดมีลุ้นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยยมด้วย โดยที่ตัวหนัง ซึ่งเข้าชิงไปถึง 6 รางวัล ก็ยังข้ามไปมีลุ้นกับรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเช่นกัน
ส่วนหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย ได้แก่ หนังเรื่อง Call Me by your Name หนังหลอนๆ เรื่อง Get Out หนังเรื่อง Lady Bird และ The Post
นอกจากให้ความสำคัญกับผู้หญิงแล้ว ออสการ์ปีนี้ ยังเปิดทางให้นักแสดงผิวสีมากขึ้น เพราะหลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ออสการ์ โดนวิจารณ์เละว่ามีแต่นักแสดงผิวขาวเข้าชิงด้านการแสดงล้วน ๆ มาคราวนี้ ก็เลยมีนักแสดงผิวสีเข้าชิงถึง 4 คน คือ “เดนเซล วอชิงตั้น” จากหนัง Roman J.Isarel ,Esq กับ “แดเนียล คาลูย่า” จาก Get Out ที่เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ “แมรี่ เจ ไบรท์” จาก Mudbound และ “อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์” จาก The Shape of Water ที่เข้าชิงในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมนั่นเอง
มาถึงขาประจำงานออสการ์ อย่าง เมอรีล สตรีพ ที่ปีนี้ ก็ไม่พลาดเข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากหนังเรื่อง The Post ซึ่งนี่ถือเป็นการเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 21 ของเธอแล้ว ผิดกับพ่อมดแห่งฮอลลีวูด “สตีเว่น สปีลเบิร์ก” ที่ถูกมองข้าม ไม่เข้าชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม
