กว่า 700 ล้านคนคือ ยอดผู้ใช้งานอินสตาแกรมทั่วโลก รวมถึงคนดังวงการบันเทิง ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับเซเลบทั้งหลายไอจีไม่ใช่แค่พื้นที่อัพเดทไลฟ์สไตล์และผลงานต่างๆ รวมถึงสื่อสารกับแฟนคลับเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่านั้นยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทำกินสร้างรายได้มหาศาล ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ เชิญชวนให้แฟนๆ กลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ดังนั้นกว่าจะโพสต์แต่ละรูปทุกอย่างต้องผ่านต้องเป๊ะ
“โจ พีอาซซ่า” ผู้เขียนหนังสือ Celebrity Inc. และ The Knockoff และผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ดิจิตอล คอนเทนท์ เล่าว่า อาชีพผู้จัดการที่ดูแลเรื่องโซเซียลมีเดียและคอนเทนต์ออนไลน์ของเซเลบ เป็นอาชีพที่มีรายได้ดีมากถึง 6 หลักเลยทีเดียว แน่นอนว่า รายได้ที่สูงลิ่วนี้ ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ความละเอียดรอบคอบ เพราะจะว่าไปแล้วก็เป็นเสมือนกาประชาสัมพันธ์หรือเป็นหน้าเป็นตาของเซเลบ ดังนั้นถ้าโพสต์ภาพหรือข้อความอะไรผิด หรือทำอะไรที่คนดังไม่ปลื้ม ก็มีสิทธิ์ถูกเด้งกันง่ายๆ นอกจากผู้จัดการด้านโซเชียลมีเดียแล้ว อีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตไปพร้อมกันก็คือ บริษัทที่ดูแลด้านสื่อโซเชียลให้เหล่าคนดังแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การดูแลข้อความแคปชั่น, ภาพถ่าย,รวมถึงการวางกลยุทธ์และการจัดการต่างเพื่อสื่อสารกับแฟนๆ กลุ่มเป้าหมาย
ส่วนภาพเป๊ะปังของซุปตาร์ดังๆ ที่เราเห็นๆ ในไอจีนั้น บอกเลยว่า มีน้อยมากๆ ที่จะเป็นภาพแอบถ่ายหรือไม่ได้ผ่านการตกแต่งแต่อย่างใดโดย “ลิซ่า จามมาล” ผู้ก่อตั้งบริษัท Social Intelligence Agency ก็เล่าเบื้องลึกเบื้องหลังว่า ทีมงานของเธอเคยพาเซเลบตระเวนทั่วลอสแองเจลิส เพื่อถ่ายภาพโปรโมเสื้อผ้าเป็นสิบๆ ชุด ใน 1 วัน ก่อนที่จะเลือกเหลือเพียงไม่กี่ภาพ แล้วนำมารีทัช ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ “โจ พีอาซซ่า” ก็ย้ำว่า ทุกอย่างผ่านการเซ็ตมาหมดแล้วจากทีมงานมืออาชีพ ทั้งแต่งหน้า ทำผม เพื่อให้ออกมาดูดีและเพอร์เฟ็กต์ ถึงบางรูปจะดูชิวๆ ก็ตาม เรียกว่าแต่ละภาพนั้นล้วนผ่านการโฟโต้ชอปทั้งนั้น เพื่อที่ให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แม้จะต้องลงทุนเป็นเงินเกือบ 10,000 ดอลดาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 334,000 บาท เพื่อให้ได้ภาพที่เพอร์เฟ็กต์เพียงแค่ภาพเดียวในอินสตาแกรม แต่มูลค่าที่ได้กลับมานั้นอาจสูงถึง 5-10 เท่าเลย ($50,000 or a $100,000) ซึ่งก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
นอกจากจำนวนผู้ติดตามในอินสตาแกรมจะเป็นส่วนสำคัญแล้ว อีกสิ่งที่ทุกวันนี้นักวางกลยุทธ์ด้านสื่อออนไลน์ให้บรรดาเซเลบหรือผู้ทรงอิทธิพล คิดว่าสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ การมีส่วนร่วมในการส่องอินสตาแกรมไม่ว่าจะเข้าคลิกไลค์หรือคอมเมนต์ โดย “ไมค์ เฮลเลอร์” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท Talent Resources อธิบายว่า จำนวนคนเข้ามาติดตามนั้นชี้ให้เห็นว่า พวกเขาไม่ได้แค่เข้ามาดูสิ่งที่โพสต์ผ่านๆ แต่มีส่วนร่วมกับมันจริงๆพร้อมกับคลิกดูสินค้า ซึ่งนี้แหละคือการดึงดูดให้แฟนคลับ อยากซื้อสินค้ามากขึ้นเพราะเป็นแฟนตัวยงของเซเลปเหล่านั้น
