ล้วงลึกศิลปินดังที่ไม่เผยโฉมหน้าตัวเอง

เริ่มต้นที่คู่ดูโอแนวเทคโนแดนซ์ Daft Punk  ที่เป็นการรวมตัวสองนักดนตรีแห่งเมืองน้ำหอม   Thomas Bangalter  (โธมัส แบงกาเธล)  และ Guy Manuel de Homem Christo (กี มานูเอล เดอ โฮเมม คริสโต)  ทั้งคู่รวมตัวกันสร้างสรรค์ผลงานด้วยกันครั้งแรกเมื่อปี 1993  ช่วงแรกๆ Daft Punk ก็ปกปิดใบหน้าด้วยการใช้ถุงขยะมาคลุมหัว  จากถุงขยะก็พัฒนาไปเป็นหมวกกันน็อคและวิกผม  จนในที่สุด ก็มาลงตัวเป็นหมวกล้ำๆ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์อย่างที่เราคุ้นเคยกัน     สองหนุ่มให้เหตุผลว่า เพราะพวกเขาต้องการมุ่งเน้นไปที่งานดนตรีจริงๆ  และอยากแยกชีวิตส่วนตัวออกจากการเป็นคนดังอย่างสิ้นเชิง   ซึ่ง Daft Punk ก็จริงจังกับความชัดเจนของพวกเขา ถึงขนาดที่จะไม่มีวันออกสื่อถ้าไม่สวมหมวกเลยทีเดียว


ฟากวงร็อคหนักแน่น Slipknot ก็คิดไม่ต่างจาก Daft Punk สักเท่าไร คือ พวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัว และเน้นเรื่องดนตรีเป็นหลัก  โดยไอเดียในตการใส่หน้ากาก มีที่มาจากการที่ Crahan หนึ่งในสมาชิกวง เอาหน้ากากตัวตลกติดมือมาตอนซ้อมดนตรีกัน  จนขยายกลายเป็นการที่สมาชิกทุกคนไม่เพียงสวมหน้ากากตามเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ยังจะใส่ชุดจัมพ์สูทให้เขากับหน้ากากของตัวเองด้วย    แถมรูปลักษณ์ของหน้ากากจะเปลี่ยนไปตามคอนเซ็ปในแต่ละอัลบั้มที่ปล่อยออกมา    ที่สำคัญ  พวกเขายังเสียดสีความเป็นพาณิชย์ในวงการดนตรี ด้วยการระบุสมาชิกแต่ละคนด้วยหมายเลขตั้งแต่ 0-8 อีกด้วย

ส่วนนักร้องสาวแดนจิ้งโจ Sia  เธอคนนี้ใช้วิคผมบลอนด์ เป็นเครื่องมือในการปิดบังหน้าตา ให้เห็นเฉพาะปากของเธอเท่านั้น   สิ่งที่ทำให้Sia เป็นที่จดจำของแฟนๆ ไม่เฉพาะวิคผมอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว  แต่ยังรวมถึง เสียงร้อง เนื้อเพลง และ มิวสิควีดีโอ ที่มักจะใช้การเต้นรำมาผสมผสานเข้าไปให้ดูล้ำอีกด้วย   Sia เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ The Late Late Show ของเจมส์ คอร์เดน สิ่งที่ขาดหายไปของวงการเพลงป็อป นั่นคือ ความลึกลับนั่นเอง 


แต่ที่ล้ำสุด ต้องยกให้ มือกีต้าร์ขั้นเทพ Buckethead หรือชื่อจริง Brian Carroll ที่เล่าถึงที่มาในการเอาถัง KFC มาครอบหัว และใส่หน้ากากที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสยองอย่าง  Halloween ว่า เพราะเขาถูกเลี้ยงดูโดยเจ้าของฟาร์มใจร้ายให้เติบโตมาพร้อมกับฝูงไก่  วันนึงที่เจ้าของเขวี้ยงถังใส่ไก่ทอดมาในกรง ถังไก่ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา   เขาเริ่มต้นเล่นกีต้าร์โดยมีแรงบันดาลใจจากหนังสยองและหนังไซไฟที่ได้ดูผ่านกรงไก่ ในโรงหนังกลางแปลง  ทุกวันนี้ เขาจึงท่องเที่ยวไปเพื่อเล่นเพลงที่สื่อความโชคร้ายของเพื่อร่วมกรงของเขา เรียกว่าเป็นจินตนาการที่ต้องยกนิ้วให้จริงๆ

ปิดท้ายด้วยวงดนตรีจากแดนปลาดิบ  Greeeen  ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของ  4 หนุ่มทันตะผู้รักในเสียงดนตรีแห่งเมืองโคริยาม่า   จนเป็นที่มาของชื่อวง Greeeen ภายใต้รูปรอยยิ้มยิงฟัน  พร้อมสะกดด้วยตัว e  4  ตัวซึ่งแทนสมาชิก 4 คนของวงนั่นเอง   นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2007 จนถึงทุกวันนี้  พวกเขาไม่เคยเผยโฉมให้แฟนเพลงได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นปกอัลบั้ม  มิวสิควีดีโอ หรือแม้แต่การแสดงสดทางทีวี หรืออินเตอร์เน็ต     เนื่องจากพวกเขามุ่งมั่นกับการเป็นหมอฟัน ตั้งแต่ช่วงที่เรียน จนถึงปัจจุบันที่เป็นทันตะแพทย์เต็มตัว   จึงไม่อยากให้ชื่อเสียงในฐานะนักร้องมาเป็นอุปสรรคกับความมุ่งมั่นในการเป็นหมอฟันนั่นเอง

เข้าชม 46 ครั้ง


ดูข่าวเพิ่มเติม