สิ้นสุดการรอคอยกับ “Beauty and the
Beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ฉบับคนแสดง ที่ค่ายดิสนีย์
หยิบเอาแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคกลับมาปัดฝุ่นสร้างใหม่
พร้อมการเล่าเรื่องในแบบร่วมสมัยพ่วงด้วยเพลงประกอบทั้งเก่าและใหม่// กับเรื่องราวการเดินทางอันแสนมหัศจรรย์ของเบลล์
สาวน้อยผู้เลอโฉม ที่ถูกคุมขังอยู่ในปราสาทของเจ้าชายอสูร ถึงแม้จะกลัว
แต่เธอก็ผูกมิตรกับคนงานของปราสาท และมองข้ามรูปโฉมอันน่ากลัวของเจ้าชายอสูร
เพื่อให้เห็นถึงจิตใจที่ดีงามที่ซ่อนอยู่ของเขา//
Beauty and the Beast ได้ “เอมม่า วัตสัน”
ที่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยและรวยความสามารถ มารับบทเป็นเบลล์ และ แดน สตีเว่นส์
เป็นเจ้าชายอสูร// กำกับโดย บิลล์ คอนดอน
จากเรื่องราวในเทพนิยายเปลี่ยนมาดูหนังโรแมนติกดราม่ากันบ้างค่ะกับ
“The Last
Face” กับเรื่องราวท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนระอุและเหตุการณ์ไม่สงบในแอฟริกา//
ผู้อำนวยการหน่วยงานการช่วยเหลือนานาชาติในแอฟริกา “เร็น ปีเตอร์เซ่น”
เดินทางสู่ภารกิจช่วยเหลือในไลบีเรีย และได้พบกับ มิเกล ลีออน
แพทย์ทรงเสน่ห์ผู้อุทิศตนให้กับการช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่อันตรายที่สุดในทวีปแอฟริกา//
จนพวกเขาก็ตกหลุมรักกันเข้าอย่างจัง แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้ต้องฝ่าฟันทั้งอันตราย
และความไม่แน่นอนมากมายท่ามกลางโลกอันโหดร้าย// แม้พวกเขาจะรัก
และมองเห็นความสำคัญของชีวิตเหมือนกัน
แต่กลับเห็นไม่ตรงกันอย่างสุดขั้วในเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้งในแอฟริกา
เกิดเป็นช่องว่างระหว่างเร็นและมิเกลขึ้น//
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเร็นได้ค้นพบอดีตบางอย่างของมิเกล
เธอจึงเริ่มสงสัยในความรักที่เขามีต่อเธอ// The Last Face นำแสดงโดย
ชาริซ เธียรอน และฮาเวียร์ บาร์เด็ม// กำกับโดย ณอน เพนน์
ต่อด้วย “It’s Only the
End of the World เรื่องรักโลกแตก” ที่เล่าเรื่องของ หลุยซ์
นักเขียนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง//
เขาตัดสินใจกลับมาพบกับครอบครัวอีกครั้งหลังจากขาดการติดต่อไปหลายปี//
//หลุยซ์กลับมาเพราะต้องการจะแจ้งข่าวกับทุกคนว่า เขาป่วยด้วยโรค HIV และกำลังจะตายในระยะเวลาอันใกล้// หลุยซ์หวังว่าก่อนที่จะจากโลกนี้ไป
เขาจะสามารถกลับมาสมานรอยร้าวที่เกิดขึ้นกับคนที่เขารักได้ แต่หลุยซ์อาจคิดผิด//It’s
Only the End of the World ได้นักแสดงระดับแม่เหล็กของวงการหนังฝรั่งเศสมาประชันบทบาททั้ง
แวงซองต์ กัสเซล, มาคริยง โกติญาร์, เลอา
เซย์ดูซ์, กัสปาร์ อุลลิเอล และนาตาลี บาย// กำกับโดย
ซาเวียร์ โดลอง
ปิดท้ายด้วยหนังผี-ระทึกขวัญ
“เปรต อาบัติ” หนังเรื่องนี้เป็นเวอร์ชั่น Director’s
Cut ที่ยังคงเส้นเรื่องเดิมของหนัง อาปัติ ที่ฉายเมื่อปี 2558//
โดยจะเล่าในโครงสร้างและมุมมองในแบบที่ผู้กำกับ “ขษิฐา
ขวัญอยู่” ต้องการสื่อสารมาตั้งแต่แรก//
โดยได้การเพิ่มฉากและขยายเรื่องราวของตัวละครมากขึ้น, ตัดต่อ-เรียบเรียง
และเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองใหม่
รวมถึงนำฉากที่ถูกตัดออกไปกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อความชัดเจนของเนื้อหา
