“น้ำตาล” สวนกลับ หลัง “มาดามแพม” โพสต์ดราม่าทำคนมองเป็นเด็กไร้มารยาท ล่าสุดคู่กรณีขอโทษแล้ว พร้อมหงายการ์ดป่วยซึมเศร้า

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลขึ้นมาทันที หลังจาก”มาดามแพม วิญญ์ลภัส ศรีสกุลเมฆี”บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบายความรู้สึกน้อยใจหลังเจ้าตัวไปออกทีวีและโดนนางงามระดับท็อป 6 ของโลกเมิน โดย “มาดามแพม” ระบุว่าวันนี้มาออกทีวี เจอนางงาม Top 6 ระดับโลกเค้ารู้จัก ทำเป็นไม่รู้จัก ชีวิตมาดามแพมช่างน่าสงสาร ทำให้คนโยงไปที่ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์”มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ซึ่งมีคิวไปถ่ายรายการในสถานที่เดียวกัน จากนั้น มาดามแพม ยังได้ไลฟ์เฟซบุ๊กเล่าว่าตนไปออกงานหนึ่ง และได้เจอกับน้ำตาล ตนชอบน้ำตาลมาก ในห้องนั้นมีคน 4-5 คน ตอนแรกมีคนมาถ่ายรูปกับตน ตนก็ถ่ายรูปไป แต่พอถ่ายรูปเสร็จตนวิ่งไปหาน้ำตาล แต่น้ำตาลทำเป็นเมินไม่คุยด้วย ไม่ไหว้ ทำให้รู้สึกเหมือนตนหน้าแตก ฟีลเหมือนโดนผัวทิ้ง รักมากแต่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้ตำหนิ ไม่ได้โพสต์ด่า แค่โพสต์น้อยใจ พร้อมวอนแฟน ๆ อย่าไปถล่มน้ำตาล ตนเป็นฝ่ายผิดเองที่วิ่งเข้าไปหาน้ำตาล ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างผู้จัดการส่วนตัวของน้ำตาล และ ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ ก็ยืนยันตรงกันว่าน้ำตาลยกมือไหว้มาดามแพมแล้ว


ขณะเดียวกัน “น้ำตาล” หลังจากที่ทราบเรื่องก็เข้ามาคอมเมนต์ในไลฟ์ยืนยันว่าตนเองไหว้มาดามแพมแล้ว หลังไหว้ทักทายเสร็จมีผู้ใหญ่โทรศัพท์เข้ามาคุยงาน ทำให้ติดสายยาว พอกลับมาก็ไม่เห็นมาดามแพม แต่พอรู้ว่ามีดราม่าก็ให้ทีมงานโทรหามาดามแพม แต่มาดามไม่รับสาย พร้อมวอนให้อีกฝ่ายให้พูดความจริง อย่าใส่ไฟ นอกจากนี้น้ำตาลยังได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ขออนุญาตเอ่ยชื่อบุคคลที่เป็นกรณีในวันนี้นะคะ ถึงคุณมาดามแพม ตาลไม่แน่ใจนะคะว่าจุดประสงค์ของคุณจะมีความประสงค์อะไรในการโพสต์ในครั้งนี้ แต่ก็ทำให้คนอื่นมองตาลไม่ดีเหมือนกัน ถ้าตาลจะมีปัญหาเรื่องการไหว้ตาลคงอยู่ในวงการไม่ได้แล้วค่ะ ทางบ้านตาลก็สอนเรื่องมารยาทค่ะ แล้วก็มีทีมงานเห็น ผู้จัดการเห็นยืนยันว่าตาลไหว้จริง ๆ แล้วมีโทรศัพท์ผู้ใหญ่เข้าเลยรับสายคุยงานยาว พอกลับมาก็ไม่เห็นคุณมาดามแพมอยู่แล้ว แล้วพอตาลไปถ่ายรายการต่อ ถ่ายเสร็จก็เห็นดราม่า ทางทีมงานก็โทรศัพท์ไปหาคุณมาดามแพมแล้วแต่คุณมาดามแพมไม่คุย และที่บอกว่าคุณมาดามแพมเข้าหาตาลตลอดด้วยความรัก ถ้ามาด้วยความรักจริง ๆ ก็ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้นะคะ เพราะเราเองก็ไม่ได้สนิทกันเลยค่ะ ครั้งหน้าก่อนจะโพสต์อะไรขอความจริงนะคะ ขอบคุณค่ะ ถ้าเป็นโรคซึมเศร้าจริง ๆ ก็ไม่น่าทำร้ายคนอื่นแบบนี้นะคะ คนเป็นโรคซึมเศร้าเขาเป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ ด้วยเหรอคะ ถามเพื่อความรู้”

ด้านสามีมาดามแพม ก็ได้เข้ามาเมนต์ใต้โพสต์นี้ พร้อมระบุว่า “ขอบคุณคุณน้ำตาลมาก ๆ นะครับ และกราบขออภัยจริง ๆ สำหรับเรื่องในวันนี้ผมและแพมทำในสิ่งที่เกินเลยไป ถือเป็นความผิดที่ไม่ควรให้อภัยจริง ๆ ครับ ตอนนี้เมียผมได้มาทบทวนพฤติกรรมตัวเองแล้ว ถือว่าไม่มีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ ผมเองก็ผิดเต็ม ๆ ที่ยุยงให้เมียโพสต์และไลฟ์สดครับ การกระทำของผมกับแพม ถือเป็นเรื่องที่น่าละอายใจมาก เราสองคนอยากทำคลิปเพื่อให้คนดูมีความสุข แต่ก็สร้างความทุกข์ให้กับคุณน้ำตาลโดยเจตนา นี่เป็นสิ่งที่ผมกับแพมสำนึกผิดมาก ๆ ครับ ผมกับเมียจะมีสติให้มากขึ้นในการโพสต์ Social ใด ๆ ให้มากกว่านี้ และขอบคุณคุณน้ำตาลนะครับที่เข้ามาในไลฟ์สดแบบสุภาพมาก ๆ ทั้งนี้ ผมกับเมียจะทำคลิปไลฟ์สดเพื่อขอโทษคุณน้ำตาลและผู้จัดการอีกครั้งอย่างเป็นทางการครับ ขอโทษจริง ๆ ครับที่สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างสูงครับ”


ก่อนจะโพสต์ร่ายยาวระบายความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊กของมาดามแพม ระบุว่าที่ผ่านมาภรรยาเป็นคนอ่อนไหวมาก ๆ ปากร้ายแต่ใจดี ตั้งแต่เป็นบุคคลสาธารณะ ภรรยาเริ่มสะสมความเครียดขึ้นทุกวัน และมีความคิดหนึ่งที่มั่นคงเสมอ คือ จะต้องพยายามไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง จึงทำแบบเต็มที่ จัดเต็ม และก็มักคาดหวังอะไร ๆ สูงเสมอ จนเริ่มกดดันตัวเอง อารมณ์แปรปรวนง่าย เหมือนคนที่แบกระเบิดเวลาไปตลอดเวลา เมื่อมีอะไรมากระทบเพียงเล็กน้อย ก็พร้อมจะโครมครามใส่ทุกอย่าง ตนจึงพาภรรยาไปพบจิตแพทย์ และพบว่าภรรยาเป็นโรคซึมเศร้า ขณะที่สามีของมาดามแพมก็เป็นซึมเศร้าด้วยเช่นกัน แต่ก็กินยารักษาจนคิดว่าหายดีแล้ว กระทั่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ยอมรับว่าภรรยารู้สึกผิดมาก ๆ จะไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก โปรดให้อภัยในความใจร้อนขาดสติของภรรยาตนด้วย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

เข้าชม 3,067 ครั้ง
ดูข่าวเพิ่มเติม