จบปึ้ง! เคลียร์ดราม่าแบบมาเร็วเคลมไว สำหรับกรณีศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นเก๋า “แอ๊ด คาราบาว” หรือ “ยืนยง โอภากุล” ฉะผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กลางเวทีคอนเสิร์ตที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้ชมหลายพันคน โดยระเบิดโทสะด้วยถ้อยคำหยาบคายจวกยับว่าผู้ว่าฯ สุพรรณฯ สั่งห้ามตนไปเล่นคอนเสิร์ตที่จังหวัดสุพรรณบุรี
กระทั่งต่อมา “นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป” ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ออกมาชี้แจงพร้อมระบุได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน คลิปวิดีโอทั้งหมด เพื่อเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับ “แอ๊ด คาราบาว” นั้น
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (14 ตค 65) “แอ๊ด คาราบาว” ได้แถลงการณ์ขอโทษผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ผ่านเฟซบุ๊กของวงคาราบาว (Carabao Official) โดยสรุปใจความได้ว่า จากรณีที่ตนใช้วาจาลบหลู่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น หลังจากได้ฟังคำอธิบายของท่านผู้ว่าฯ แล้ว ตนก็รู้สึกสำนึกผิด ยอมรับเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่ขาดสติไป พร้อมกราบขออภัยผู้ว่าฯ และขอบคุณที่กรุณาออกมาชี้แจง ส่วนเรื่องคดีความก็พร้อมอ้าแขนรับความผิดเต็มๆ
โดยก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯ สุพรรณฯ ได้ชี้แจงว่า ชนวนเหตุเกิดจากความเข้าใจผิด เพราะปี 2564 ไม่มีการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงในปี 2565 ได้เลื่อนการจัดงานจากช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. มาเป็น มี.ค.65 แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว สุพรรณบุรียังเป็นพื้นที่สีส้ม งดจัดการแสดงมหรสพ ขณะที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นพื้นที่สีฟ้า จึงมีการจัดงานดอนเจดีย์และจ้าง “แอ๊ด คาราบาว” ไปเล่น นอกจากนี้การจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ที่สุพรรณบุรี มีการประมูลพื้นที่จำหน่ายสินค้า โดยผู้ชนะประมูลเป็นคนจัดหามหรสพ ซึ่งจากการสอบถามผู้ชนะการประมูลพื้นที่ว่าทำไมไม่จ้าง “แอ๊ด คาราบาว” มาเล่น ก็ได้รับคำตอบว่า ค่าจ้างวงคาราบาวสูงมาก เก็บรายได้ไม่คุ้มกับค่าจ้าง ขาดทุนเป็นเงินหลักแสน ดังนั้นการที่ “แอ๊ด คาราบาว” อยากมาเล่นคอนเสิร์ตที่สุพรรณบุรี จึงเป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องของชาวสุพรรณฯ ที่อยากมาเปิดการแสดงที่สุพรรณฯ แต่อย่างใด จึงเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ว่าจะจ้างวงดนตรีใดไปเปิดการแสดงเช่นกัน ทั้งนี้ “ผู้ว่าฯ ณัฐภัทร” ยังยืนยันว่า ตนเกิดที่อำเภอศรีประจันต์ เป็นคนเลือดสุพรรณฯ เช่นเดียวกับ “แอ๊ด คาราบาว”.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน